เป็นที่ทรา่บกันดีอยู่แล้วว่า...ปลวกมักเข้าทำลายโครงสร้างของอาคารบ้านเรือนในบริเวณที่มีความชื้นสูง เนื่องจากความชื้นเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของปลวก เพราะฉะนั้นสิ่งปลูกสร้างที่มีสภาวะแวดล้อมโดยรอบเอื้อต่อการทำให้มีความชื้นสะสมสูง มักจะพบปัญหาเรื่องปลวกอยู่ตลอดเวลา เช่น บ้านที่มีต้นไม้ปกคลุมรอบตัวบ้าน บ้านที่ปลูกติดริมคลองหรือใกล้แหล่งน้ำ รวมถึงการรดน้ำต้นไม้บริเวณสนามหญ้าเป็นประจำทุกวันก็มีผลเช่นกัน อีกทั้งลักษณะการออกแบบตกแต่งบ้านก็อาจทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเข้าทำลายของปลวก โดยเฉพาะบ้านที่มีการตกแต่งสวนและสนามหญ้าให้มีพุ่มไม้ปลูกติดกับตัวบ้านเพื่อกลบรอยคราบดินบริเวณผนังด้านนอก อีกทั้งในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่นิยมสร้างอาคารบ้านเรือนโดยการถมดินหรือเททรายทับเพื่อปิดกั้นบริเวณใต้พื้นบ้าน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาปลวกเข้าทำลายได้ง่้ายและรวดเร็ว เนื่องจากประชากรปลวกมักใช้สภาพแวดล้อมเหล่านี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยเพื่อสร้างรังและทำทางเดินเข้าสู่ตัวบ้าน ฉะนั้นจึงไม่ควรปลูกต้นไม้ให้ชิดติดกับตัวบ้านจนเกินไป ทั้งยังควรปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนให้มีการยกระดับพื้นบ้าน ซึ่งสามารถทำได้โดยการสร้างบ้านให้สูงจากพื้นดินไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร หรือที่เรียกว่าใต้ถุน เพื่่อให้มีช่องระบายอากาศโดยรอบ ซึ่งจะช่วยลดความชื้นที่สะสมอยู่ในดินใต้พื้นบ้าน และสะดวกในการที่จะเข้าไปทำการป้องกันกำจัดปลวก
อีกวิธีการหนึ่งที่สามารถช่วยให้บ้านปลอดภัยจากการรุกรานของปลวกได้ คือการดูแลตรวจสอบสภาพท่อน้ำหรือบริเวณที่อาจมีการรั่วซึมของน้ำ หมั่นจัดเก็บและวางข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยเฉพาะในส่วนของห้องใต้บันได และห้องเก็บของ ซึ่งเป็นห้องที่ไม่ค่อยได้ีโอกาสเข้าไปดูแลบ่อยนัก สำหรับอาคารที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างควรทำการขนย้ายหรือรื้อถอนไม้แบบออกไปให้มากที่สุด เพื่อเป็นการตัดช่องทา และแหล่งอาหารของปลวกซึ่งเป็นการป้องกันการเข้าทำลายของปลวกได้อีกทางหนึ่ง
แต่ท้่ายที่สุดหากไม่สามารถหลีกหนีปัญหาเรื่องปลวกได้ 100% ควรเลือกผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการกำจัดปลวกเข้ามาตรวจสอบดูแลบ้านเพื่อให้บ้านไม่ต้องตกอยู่ในความเสี่ยงอีกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น