วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การตรวจหาปลวกในบ้าน

สิ่งที่สังเกตุได้ง่ายและชัดเจนที่สุด  ในการเริ่มต้นสำรวจร่องรอยปลวกภายในบ้าน คือ การมองหาทางเดินของปลวก  ซึ่งเป็นทางสัญจรจากรังไปจนถึงแหล่งอาหาร  โดยในบางครั้งพบว่ามีระยะทางไกลมาก ทางเดินนี้อาจปรากฏบนโลหะ  ผนังคนกรีต  หรือแม้แต่รอยแตกของปูน  ดังนั้นที่ที่คาดว่าเป็นแหล่งอาหาร ได้แก่  พื้นไม้  วงกบประตู  หน้าต่าง  คิ้วบัว  และส่วนประกอบที่ทำจากไม้  คือ  บริเวณที่ต้องตรวจตรา  รวมไปถึงหลังตู้โชว์  เตียงนอน  หรือกองหนังสือที่วางไว้ตามพื้นก็ต้องยกดูเช่นกัน  โดยเฉพาะห้องที่มีความชื้นมาก  เช่น  ห้องใต้ดิน  ห้องเก็บของใต้บันไดที่ไม่ได้เคลื่อนย้ายข้าวของมาเป็นเวลานาน


แต่การที่ไม่พบทางเดินปลวกในบ้านอาจไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยจากการมาเยือนของปลวก เนื่องจากปลวกจะทำลายเนื้อไม้เพียง 10-20%   ของแต่ละแผ่นเท่านั้น  เพื่อไม่ให้เกิดการหักจนเป็นอันตรายต่อพวกปลวกเอง  ด้วยเหตุนี้จึงต้องหมั่นสังเกตโครงสร้างรับน้ำหนักของบ้านโดยตลอด  เช่น  ถ้าพื้นบ้านเริ่มเอียง  สันนิษฐานได้ว่าปลวกอาจกำลังทำลายคานของบ้านอยู่  นอกจากนี้ปลวกยังกินเนื้อไม้เฉพาะด้านใน  และเหลือไว้เพียงชั้นบาง ๆ  เท่านั้น  เมื่อดูจากภายนอกจึงยังคงเหมือนปกติทุกอย่าง  เวลาเจ้าหน้าที่จากบริษัทฯ  เข้าตรวจสอบจึงต้องใช้อุปกรณ์กดเคาะเบา ๆ ตามขอบประตู  ขอบหน้าต่าง  ขอบบัวของพื้น  และรอยแตกของผนังปูนเพื่อหาปลวก  อีกแห่งที่ต้องสำรวจโดยละเอียด คือ บนฝ้าเพดาน  ยิ่งถ้าคร่าวฝ้าเพดานเป็นไม้และฝ้่าเป็นยิปซัทบอร์ด  ยิ่งต้องดูแลต่อเนื่องถึงบริเวณด้านนอก  สนามหญ้า  เรือนต้นไม้  และช่วงต่อระหว่างทางเดินกับตัวบ้าน


จำนวนแมลงเม่าที่บินเข้ามาในที่พักอาศัยก็ถือเป็นสัญญาณเตือนได้เช่นกัน  เพราะอาจเป็นแมลงเม่าที่บินมาจากรูปลวกภายในบ้านเพื่อหาพื้นที่สำหรับสร้างรังใหม่  ดังนั้นในหนึ่งปีควรสำรวจปลวกอย่างน้อยหนึ่งครั้ง  โดยช่วงที่เหมาะสมต่อการสำรวจคือประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม  เพราะเป็นช่วงปลายฤดูฝน   ปริมาณคยวามชื้นส่งผลบวกต่อการเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนของปลวก  ทำให้มีโอกาสพบเห็นได้ง่ายกว่าช่วงฤดูอื่น  ซึ่งถ้าพบปลวกจริง ๆ ควารตรวจตราให้ทั่วบ้าน  แต่ไม่ควรใช้สเปรย์ฆ่าปลวกพ่นในจุดที่พบทันที  เนื่องจากปลวกที่ไม่โดนน้ำยาจะย้ายไปทำลายบริเวณอื่น  ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบลำบากขึ้น  อีกทั้งการทำลายเนื้อไม้ของปลวกใช้เวลาเป็นเดือน ๆ  ดังนั้นจึงมีเวลาวางแผนและมองหาบริษัทกำจัดปลวกมาดูแล



ความชื้นสะสมเหตุสำคัญปัญหาปลวก

ความชื้นในช่วงฤดูฝน  บ้านที่อยู่ในระดับน้ำท่วมถึง  ทำให้มีน้ำขังในบางจุด และบ้านที่มีต้นไม้จำนวนมากจนมีความชื้นสะสมมากกว่าปกติ  ล้วนแต่เป็นต้นเหตุของการมาเยือนจากปลวก เพราะปลวกก็เหมือนสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่ต้องการน้ำและอาหาร  เดิมทีปลวกจะกินเศษไม้ในดิน แต่นับวันด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างทำให้ไม้ตามธรรมชาติลดน้อยลง  ปลวกจึงยกทัพเข้ามาอยู่ในบ้านของคนเรา  เพื่อหาไม้เป็นอาหาร  โดยแทรกตัวผ่านรอยแตก รอยแยกของตัวบ้าน  พร้อมสร้างอุโมงค์ทางเดินในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง  เพราะฉะนั้นการป้องกันความชื้นสะสมบริเวณ ตัวบ้านและรอบ ๆ บ้าน  จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีของการป้องกันปลวก


ดังนั้นจึงควรดูแลตั้งแต่เรื่องระดับพื้นบ้านที่ต้องให้สูงกว่าพื้นดินอย่างน้อย 50 เซนติเมตร  และทำช่องระบายอากาศรอบด้านเพื่อลดความชื้นใต้พื้นบ้าน  ทั้งยังสะดวกต่อการเข้าไปกำจัดปลวกในระยะต่อไป  หมั่นตรวจสอบท่อน้ำต่าง ๆ  ไม่ให้ไหลลงดิน อย่าให้มีแอ่งน้ำขังหรือบริเวณชื้นแฉะรอบตัวบ้าน อีกทั้งไม่ควรปลูกต้นไม้ใกล้ตัวบ้าน  เพราะการรดน้ำต้นไม้จะทำให้มีความชื้นมาก  ปลวกจึงมักชอบมาสร้างรังและทำทางเดินเข้าสู่ตัวบ้าน  ภายในบ้านก็ต้องมีการระบายอากาศที่ดี  เพื่อลดความชื้นสะสม  ส่วนบริเวณพื้นห้องน้ำและลานซักล้างต้องผสมน้ำยากันซึมตั้งแต่ขั้นตอนการเทปูน อย่าให้มีรอยแตกเพราะน้ำจะซึมผ่านลงดินได้ง่าย


วิธีการเหล่านี้จะช่วยลดความชื้นภายในและบริเวณรอบบ้านไปได้มาก ปัญหาปลวกก็จะลดลงเพราะถือเป็นการตัดสภาพความเจริญเติบโตของปลวก

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

วงจรชีวิตปลวก

ปลวกเมื่อโตเต็มวัยจะมีปีกหรือที่เรารู้จักกันว่า ”แมลงเม่า” พบแมลงเม่ามากในช่วงต้นของฤดูฝน หรือระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึง มิถุนายนและช่วงที่มีฝนตกผิดฤดูและมีปริมาณความชื้นสูง จึงเป็นระยะที่เหมาะกับการผสมพันธุ์ของแมลงเม่าและพบเห็นบ่อย  แมลงเม่าทั้งตัวผู้และตัวเมีย เมื่อบินออกจากรังจะจับคู่กันแล้วจะสลัดปีกทิ้ง จากนั้นจะพากันไปหาสถานที่ที่เหมาะสมในการที่จะเป็นรังใหม่ของมันต่อไปนั่น คือบริเวณที่มีความชื้นสูงและมีแหล่งของอาหารคือไม้อย่างพอเพียง 

ขั้นตอนการผสมพันธุ์เริ่มจากปลวกเพศเมีย ซึ่งกลายเป็นราชินีปลวกจะปล่อยกลิ่นฟีโรโมน ทำให้ปลวกตัวผู้(ปลวกราชา)ไปหาและผสมพันธุ์กัน เมื่อสร้างรังเสร็จตัวราชินีปลวกจะเริ่มวางไข่ภายในเวลา 1 เดือน การวางไข่ของราชินีปลวกครั้งแรกจะมีจำนวนน้อยประมาณ 10 ฟองหรือมากกว่า ไข่จะฟักเป็นตัวอ่อนปลวกออกมาภายในเวลาหลายสัปดาห์  

วงจรชีวติปลวกรุ่นแรกจะเป็นปลวกงานและปลวกทหาร ในระยะแรกตัวอ่อนจะได้รับอาหารจากปลวกราชินีโดยการกินมูลและอาหาร ซึ่งทำให้ปลวกได้รับโปรโตซัวและแบคทีเรีย ต่อมาส่วนท้องของปลวกราชินีจะขยายใหญ่ขึ้นและจะเริ่มวางไข่อีกและจะเคลื่อน ไหวไปไหนมาไหนไม่ได้ ในครั้งนี้จะเป็นการผลิตปลวกงานและปลวกทหารให้เพิ่มขึ้น ในระยะ 3-4 ปีต่อมาราชินีจึงวางไข่เพื่อผลิตวรรณะสืบพันธุ์ชุดแรก สำหรับตัวราชาปลวกจะมีรูปร่างขยายขึ้นกว่าเดิมไม่มากนัก จะคอยอยู่ใกล้ๆ กับตัวนางพญาปลวกเพื่อทำการผสมพันธุ์เพียงอย่างเดียว






วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

บ้าน...ที่มีความเสี่ยงจากปลวก

เป็นที่ทรา่บกันดีอยู่แล้วว่า...ปลวกมักเข้าทำลายโครงสร้างของอาคารบ้านเรือนในบริเวณที่มีความชื้นสูง  เนื่องจากความชื้นเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของปลวก  เพราะฉะนั้นสิ่งปลูกสร้างที่มีสภาวะแวดล้อมโดยรอบเอื้อต่อการทำให้มีความชื้นสะสมสูง  มักจะพบปัญหาเรื่องปลวกอยู่ตลอดเวลา  เช่น บ้านที่มีต้นไม้ปกคลุมรอบตัวบ้าน  บ้านที่ปลูกติดริมคลองหรือใกล้แหล่งน้ำ  รวมถึงการรดน้ำต้นไม้บริเวณสนามหญ้าเป็นประจำทุกวันก็มีผลเช่นกัน  อีกทั้งลักษณะการออกแบบตกแต่งบ้านก็อาจทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเข้าทำลายของปลวก  โดยเฉพาะบ้านที่มีการตกแต่งสวนและสนามหญ้าให้มีพุ่มไม้ปลูกติดกับตัวบ้านเพื่อกลบรอยคราบดินบริเวณผนังด้านนอก  อีกทั้งในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่นิยมสร้างอาคารบ้านเรือนโดยการถมดินหรือเททรายทับเพื่อปิดกั้นบริเวณใต้พื้นบ้าน  ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาปลวกเข้าทำลายได้ง่้ายและรวดเร็ว  เนื่องจากประชากรปลวกมักใช้สภาพแวดล้อมเหล่านี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยเพื่อสร้างรังและทำทางเดินเข้าสู่ตัวบ้าน  ฉะนั้นจึงไม่ควรปลูกต้นไม้ให้ชิดติดกับตัวบ้านจนเกินไป  ทั้งยังควรปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนให้มีการยกระดับพื้นบ้าน  ซึ่งสามารถทำได้โดยการสร้างบ้านให้สูงจากพื้นดินไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร หรือที่เรียกว่าใต้ถุน  เพื่่อให้มีช่องระบายอากาศโดยรอบ  ซึ่งจะช่วยลดความชื้นที่สะสมอยู่ในดินใต้พื้นบ้าน  และสะดวกในการที่จะเข้าไปทำการป้องกันกำจัดปลวก


อีกวิธีการหนึ่งที่สามารถช่วยให้บ้านปลอดภัยจากการรุกรานของปลวกได้  คือการดูแลตรวจสอบสภาพท่อน้ำหรือบริเวณที่อาจมีการรั่วซึมของน้ำ  หมั่นจัดเก็บและวางข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย  โดยเฉพาะในส่วนของห้องใต้บันได  และห้องเก็บของ  ซึ่งเป็นห้องที่ไม่ค่อยได้ีโอกาสเข้าไปดูแลบ่อยนัก  สำหรับอาคารที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างควรทำการขนย้ายหรือรื้อถอนไม้แบบออกไปให้มากที่สุด  เพื่อเป็นการตัดช่องทา  และแหล่งอาหารของปลวกซึ่งเป็นการป้องกันการเข้าทำลายของปลวกได้อีกทางหนึ่ง


แต่ท้่ายที่สุดหากไม่สามารถหลีกหนีปัญหาเรื่องปลวกได้ 100%  ควรเลือกผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการกำจัดปลวกเข้ามาตรวจสอบดูแลบ้านเพื่อให้บ้านไม่ต้องตกอยู่ในความเสี่ยงอีกต่อไป

วรรณะของปลวก

วรรณะของปลวกนั้น บางตำราท่านว่ามี 3 วรรณะ แต่ความเข้าใจและความเห็นของข้าพเจ้าคิดว่า ปลวกแบ่งออกเป็น 4 วรรณะด้วยกัน (ดังภาพประกอบ)

ซึ่งแต่ละวรรณะก็จะแบ่งหน้าที่กันดังนี้


สำหรับนางพญาปลวกนั้นมีหน้าที่ออกลูกออกหลานปลวก (ในภาพด้านล่างคือภาพนางพญาปลวก)




เกี่ยวกับ "ปลวก"

!!!ปลวก!!!
ปลวกตัวแรกของโลกถือกำเนิดเมื่อประมาณ 220 ล้านปีมาแล้ว การขุดพบซากฟอสซิลของปลวก โดย E.M. Bordy แห่งมหาวิทยาลัย Witwatersrand ในแอฟริกาใต้ทำให้นักชีววิทยาสัตว์ดึกดำบรรพ์รู้ว่าปลวกโบราณมีรูปร่างที่ละม้ายคล้ายคลึงแมลงสาบปัจจุบันมาก แต่มีขนาดเล็กกว่าและมีผิวอ่อนนุ่มกว่า ถึงแม้โลกทุกวันนี้มีปลวกมากกว่า 2,000 ชนิด แต่ก็มีเพียงไม่กี่ชนิดที่ชอบอาศัยอยู่ในเนื้อไม้ของอาคารบ้านเรือน ซึ่งนับเป็นภัยต่อที่อยู่อาศัย เพราะปลวกจะกัดกินสรรพสิ่งที่ทำด้วยไม้จนหมด และนั่นก็หมายความว่า เจ้าของบ้านจะต้องอพยพออกจากบ้านในที่สุด



ปลวก เป็นสัตว์สังคมที่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง มันทำมาหากินและดูแลกันอย่างเป็นทีม ลักษณะนิสัยเช่นนี้ทำให้มนุษย์หรือสัตว์อื่น ๆ ปราบปราม หรือกำจัดมันได้ยาก ดังนั้น เวลาจะสร้างบ้านเจ้าของบ้านควรใช้วิธีฉีดสารเคมีตามรังของมันที่อาจอยู่ในตอไม้หรือเศษไม้ใต้ดินให้ทั่ว เพื่อจะได้มั่นใจว่าปลวกตายหมด เพราะเหตุว่ายากำจัดปลวกเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตซึ่งหมายถึงมนุษย์ด้วยดังนั้น การพ่นยากำจัดปลวกจึงต้องดำเนินไปอย่างระมัดระวัง และสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องรอให้แมลงเม่า ซึ่งเป็นปลวกในระยะสืบพันธุ์ต้องบินว่อนออกมา เพราะถ้าถึงเวลานั้น ทุกอย่างที่เป็นชิ้นส่วนของบ้านก็ตกอยู่ในภาวะอันตรายเรียบร้อยแล้ว

การใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในจอมปลวก และใต้ดินทำให้เราไม่ได้ศึกษาธรรมชาติของปลวกอย่างใกล้ชิด จนทำให้คนหลายคนคิดว่าปลวกคือ มดขาว แต่ในความเป็นจริงปลวกและมดเป็นสัตว์คนละชนิดกัน เพราะมดเป็นสัตว์ในอันดับ Hymenoptera และปลวกอยู่ในอันดับ Isoptera ทั้งนี้เพราะปีกของมดสั้น และมีขนาดไม่เท่ากัน แต่ปีกของปลวกยาวและใหญ่เกินตัว อีกทั้งมีขนาดเท่ากันด้วย นอกจากความแตกต่างเรื่องปีกแล้ว สรีระส่วนที่เป็นเอวก็แตกต่างกัน คือมดมีเอว แต่ปลวกไม่มี และเวลามดตัวผู้ผสมพันธุ์กับราชินีมดแล้ว มันจะตายในเวลาต่อมาอีกไม่นาน ส่วนปลวกตัวผู้เมื่อได้เสพสมกับราชินีปลวกแล้ว มันจะช่วยกันสร้างอาณาจักรปลวกให้มีบริเวณเพียงพอสำหรับให้ลูกปลวกเจริญเติบโต เพราะราชินีปลวกที่เติบโตเต็มที่อาจมีลำตัวยาวตั้งแต่ 9-12 เซนติเมตร และเวลาตั้งครรภ์ มันจะเดินไปไหนมาไหนไม่ได้ ถึงกระนั้นมันก็ไม่อดอาหารตาย เพราะมันมีปลวกงานที่มีนิสัยขี้อายแต่ขยันขันแข็งเดินหน้าหาอาหารมาให้ราชินีของมันเสวยตลอดวัน และมันยังช่วยทำความสะอาดตัวให้ราชินีของมันด้วย โดยการเลียตามตัวตลอดเวลา และเมื่อราชินีปลวกวางไข่แล้ว ปลวกงานก็จะขนไข่ไปเรียงให้เป็นที่เป็นทาง และหาอาหารมาเลี้ยงปลวกอ่อนที่ยังช่วยตัวเองไม่ได้ด้วย นักชีววิทยายังพบอีกว่า ปลวกบางชนิดรู้จักทำสวนรา ซึ่งให้ cellulose อันเป็นอาหารโปรดของมัน โดยมันจะขนใบหญ้าใบไม้มาวางกองจนใบไม้กลายสภาพเป็นรา อนึ่งราที่กำลังเจริญเติบโต มันจะคายไอน้ำออกมา ทำให้ความชื้นของบรรยากาศในรังอยู่ที่ระดับพอดีด้วย